บทความนี้ผมขอทำความเข้าใจเรื่องคำศัพท์ SEO เสียก่อน เพราะในบทความถัดไปผมจะสรุป Roadmap การทำ SEO ของ Blogger สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นให้มีแนวทางการทำ และสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น และจะเป็นประโยชน์ในการทำ SEO ต่อไปอย่างมากหากคุณสามารถเข้าใจคำเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน
คำแปลเหล่านี้อาจจะไม่ได้ถูกหลักวิชาการนะครับเพราะผมแปลเอาเองตามความเข้า ใจที่ได้สะสมมา ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าครับ และหวังว่าคงพอเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจเรื่อง SEO ให้กับคนที่เริ่มต้นได้
คำแปลเหล่านี้อาจจะไม่ได้ถูกหลักวิชาการนะครับเพราะผมแปลเอาเองตามความเข้า ใจที่ได้สะสมมา ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าครับ และหวังว่าคงพอเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจเรื่อง SEO ให้กับคนที่เริ่มต้นได้
1. SEO : คำนี้ย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งเป็นกระบวนการการทำให้บล็อก/เว็บไซต์ของคุณถูกค้นพบโดยเครื่องมือค้นหา บนโลก Internet ได้ง่ายขึ้น
2. SE : ย่อมาจาก Search Engine คือเครื่องมือค้นหาข้อมูลบนโลก Internet (ในที่นี้เราจะพูดถึงบล็อกและเว็บไซต์)
3. Bot : ย่อมาจาก Robot เป็นเหมือนผึ้งงานที่คอยมาเก็บข้อมูลต่าง ๆ บน โลก Internet ที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มปริมาณของข้อมูลขึ้น และที่สำคัญ Bot ของ Search Engine ชอบจะไปเยี่ยมบล็อก/เว็บไซต์ที่มีการ update บ่อย ๆ
4. Keyword : ในเรื่อง SEO หมายถึงคำสำคัญที่คนมักใช้ค้นหาจาก Search Engine เช่น คำว่า ผลฟุตบอล บอลโลก 2010 เป็นต้น
5. Niche keyword : หมายถึง Keyword ที่มีโอกาสสูงที่คนจะใช้ค้นหากับ Search Engine และมีคู่แข่ง (ปริมาณผลการค้นหา) ไม่มากนัก
6. Density : คำนี้มักใช้คู่กับเรื่อง Keyword ซึ่งหมายถึงความหนาแน่นของ Keyword ใน 1 หน้า หรือใน 1 บทความ เพื่อเพียงพอจะทำให้ Bot ของ Search Engine ตีความได้ว่า หน้านั้น ๆ หรือบทความนั้น ๆ เกี่ยวกับเรื่องใด
7. Link : ในเรื่อง SEO คำว่า Link จะหมายถึงการเชื่อมโยงกันระหว่าง บล็อก/เว็บไซต์
8. Anchor Text : หมายถึงข้อความที่เป็น Link เชื่อมโยง ซึ่ง Bot ของ Search Engine จะให้ความสำคัญกับข้อความชนิดนี้มากกว่าข้อความปกติ หรือถูกให้ความสำคัญกว่าลิงค์ปกติ เช่น
ข้อความปกติดังที่แสดงด้านล่าง Bot ของ Search Engine ให้ความสำคัญน้อยมาก
hackublogLink ปกติที่แสดงดังด้านล่าง Bot ของ Search Engine ให้ความสำคัญน้อย
http://www.hackublog.com/Anchor Text Bot ที่แสดงดังตัวอย่างด้านล่าง Bot ของ Search Engine ให้ความสำคัญ
วิธีสร้างบล็อก
โค้ดที่ใช้สร้าง Anchor Text
<a href='ใส่ URL ที่นี่' title='ใส่ข้อความอธิบายลิงค์'>ใส่ Keyword </a>และสิ่งที่ควรทำทุกครั้งคือเมื่อสร้างลิงค์เชื่อมโยงควรใช้ Anchor Text และใช้ Keyword ในการตั้งชื่อ Anchor Text ด้วย
9. index : คือการที่หน้าบล็อกหรือเว็บไซต์ของเราถูกนำไปจัดอันดับในผลของการค้นหา ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อันดับที่ดีที่สุดจากผลการค้นหาคือ อันดับ 1 ในหน้าแรกจากผลการค้นหาโดยใช้ Google.com (Google เป็น Search Engine ที่คนนิยมใช้มากที่สุดในโลก )
จะทราบได้อย่างไรว่าบล็อก/เว็บไซต์คุณ index แล้ว ? >> ให้พิมพ์
site:www.yourname.comหรือ
site:ชื่อบล็อก.blogspot.comในช่องค้นหาใน Google ซึ่งถ้าพบแปลว่า Index แล้วครับ
10. PR : ย่อมากจาก Pagerank คือคะแนนที่ Search Engine ต่าง ๆ จะให้กับบล็อก/เว็บไซต์ของเรา โดยค่า PR สูงสุดคือ 10 ต่ำสุดคือ 0 และกรณีที่บล็อกของคุณยังไม่ถูกจัดเก็บเข้าไปในฐานข้อมูลของ Search Engine คะแนน PR จะเป็น n/a
บล็อก/เว็บไซต์ที่มี PR สูง ๆ หมายความว่าเป็นบล็อก/เว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บไซต์ที่มี เนื้อหามีคุณภาพไม่ซ้ำใคร ระบบเว็บไซต์มีเสถียรภาพสูง คนเข้าชมเยอะ มีคนใช้บริการมาก ๆ และมี Link (จากเว็บคุณภาพ)เข้ามาหาเป็นจำนวนมาก
แต่ทั้งนี้ค่า PR ไม่ได้ส่งผลต่ออันดับการค้นหาจาก SE แต่อย่างใด เพราะผลการค้นหาจะเลือกจัดอันดับเว็บที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับความต้องการ ของผู้ค้นหามากที่สุด ดังนั้น บล็อก/เว็บไซต์ที่มี PR=0 ก็ติดอันดับการค้นหาเป็นที่ 1 ได้
11.Backlink : หมายการเชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่น ๆ มายังบล็อก/เว็บไซต์ของเรา ถ้ามี Backlink เข้ามามาก ๆ จะส่งผลต่อการ Index ยิ่งไปกว่านั้นถ้าได้ Backlink จากบล็อก/เว็บไซต์ ที่มี PR สูง จะทำให้ PR ของเราเพิ่มตามไปด้วย และอันดับจากการค้นหาก็จะใต่ขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ด้วย
การหา Backlink จากเว็บที่มี PR สูง เป็นเรื่องยากส่วนใหญ่จะต้องซื้อ เดือนละเท่าไหร่ ปีละเท่าไรก็แล้วแต่จะตกลง ส่วนสำหรับคนที่ไม่มีต้นทุนในการซื้อลิงค์ก็จะต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติ เพื่อให้ได้มาซึ่ง Backlink จำนวนมาก ซึ่งก็จะได้พูดถึงวิธีการกันในบทความต่อ ๆ ไป
11. Dofollow และ Nofollow : ต่อเนื่องจากคำว่า Backlink บางเว็บไซต์ที่เราไปสร้าง Backlink เอาไว้ หรือเว็บไซต์ที่ลิงค์มาหาเราบางเว็บไซต์จะป้องกันการเสียคะแนน PR โดยตั้งค่า Link เอาไว้เป็น Nofollow ซึ่งจะทำให้ Backlink ที่เราได้มาไม่ทำให้คะแนน PR ของเราเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ไม่ดีเพราะว่า ถึงจะไม่ได้คะแนน PR แต่ก็อาจจะเพิ่มจำนวนคนเข้าชมบล็อกของเราก็ได้
ส่วนความหมายของ Dofollow ก็จะตรงข้ามจาก Nofollow คือ เราจะได้ Backlink และได้คะแนน PR ด้วยครับ
12. Link Wheel: เป็น Backlink ที่แข็งแกร่งมากชนิดหนึ่งที่เราสามารถกำหนดและสร้างเองได้ โดยลักษณะของลิงค์ชนิดนี้จะสร้างสะพานให้ Bot วิ่งลักษณะเป็นวงกลม และทุกจุดบนเส้นรอบวงก็จะส่ง Backlink มายังศูนย์กลางคือบล็อกที่เราต้องการได้ Backlink ถ้านึกไม่ออกลองนึกว่ามันคล้าย ๆ พายุ Hurricane แล้วบล็อกของคุณอยู่ตรงใจกลางพายุครับ สำหรับเรื่อง LinkWheel บน Blogger ผมยังไม่ได้ลงรายละเอียดมากนะครับ เพราะจะเขียนบทความให้อยู่แล้ว ให้รออ่านในบทความต่อไปครับ
13. Traffic: ในเรื่อง SEO หมายถึง ปริมาณคนหรือรวมทั้งหุนยนต์ที่เข้าชมบล็อกของคุณ ยิ่งมากก็ยิ่งดีครับ ดังนั้น ถ้า Index ในอันดับที่ดี เช่นติดหน้า 1 ของ Google ใน Keyword ที่คนนิยม Traffic ก็ย่อมมากไปด้วย
14.UIP : ย่อมาจาก Unique IP ซึ่งการนับจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์จะนับจากปริมาณ Unique IP จึงจะแม่นยำ เพราะถ้า เราเข้าชมบล้อกตัวเองวันละ 100 ครั้งแล้วนับ 100 ครั้ง ก็คงจะสรุปอะไรไม่ได้
15. Pageview : คือจำนวนการเปิดหน้าในบล็อก/เว็บไซต์ของคุณ ซึ่งถ้านำไปหารด้วยจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์ก็จะบอกได้ว่าคนที่มาชมบล็อกของคุณ มีการเปิดชมบล็อกโดยเฉลี่ยกี่ครัง ถ้าเฉลี่ยแล้วไม่ถึง 1 แสดงว่าบล็อก/เว็บไซต์ของคุณ ไม่น่าสนใจเอาซะเลย
การนับจำนวนคนเข้าชม Blogger อาจจะใช้ของบริการตัวนับฟรีเช่น Histat.com เป็นต้น
16. Spam : เป็นพฤติกรรมที่ทำอะไรมากกว่าปกติ เกินความจำเป็นและผิดธรรมชาติของระบบ เช่น เพิ่งบล็อก/เว็บไซต์ได้วันเดียวแต่มี backlink จำนวนมาก Index ในอันดับสูงผิดปกติ หรือมีการเพิ่มของปริมาณข้อมูลในบล็อก/เว็บไซต์ อย่างมหาศาลในช่วงเวลาสั้น ๆ อย่างนี้ก็จะถูก เอาไปเก็บไว้ในหลุมดำ(หลุมทราย)ของ Search Engine หรือถูกลดความสำคัญในที่สุด
17. De-Index ( Decrease Index ) : เป็นการถูกลดความสำคัญของข้อมูลที่ได้ถูก Index ไปแล้ว อาจจะเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น Spam คำ เพิ่มจำนวนบทความมากผิดปกติ หรือการไม่ Update ของเนื้อหา หรือถูกลดอันดับจากคู่แข่งที่ทำอันดับขึ้นมาดีกว่า เป็นต้น
18. Approve คือการรอการตรวจสอบ เช่นเรานำ Blog ไปสมัครกับ Blog directory ที่มีชื่อเสียง เราก็จะต้องรอให้มีการตรวจสอบว่าบล็อกของเรามีคุณภาพพอที่จะเข้าร่วมกับ Blog directory นั้น ๆ หรือไม่
19. Sandbox : เป็นเหมือนสถานพินิจที่นำเอาบล็อก/เว็บที่มีพฤติกรรมการเพิ่ม Index และ backlink มากผิดปกติ จนเข้าข่ายน่าสงสัย บล็อก/เว็บก็จะนำไปรอการตรวจสอบความผิดปกตินั้นเสียก่อน ถ้าตรวจสอบประมาณ 5-6 เดือนแล้วก็จะปล่อยออกมาให้ Index เหมือนเดิม
ส่วนใหญ่คนที่ตกหลุมทราย(Sandbox) จะเป็นพวกเทพหรือเซียนเท่านั้น เพราะการเพิ่ม Index และ backlink ได้ปริมาณมาก ๆ ภายในเวลาสั้น ๆ (1-2 วัน) คนทั่วไปทำไม่ค่อยได้
วิธีทำให้หลุดจากหลุมทรายก็ไม่ยากครับ เพียงแต่ต้องรอ และระหว่างรอ ต้องหยุดเพิ่มข้อมูลสักพัก Submit ได้เล็กน้อย ตามสมควร แต่ที่สำคัญคือให้หาBacklink จากเว็บ PR สูง ๆ ครับ จะหลุดเร็วมาก ถ้ามีทุนหน่อยก็ซื้อลิงค์ครับ
20. Submit : คำนี้พูดถึงไปบ้างแล้ว ถ้าแปลง่าย ๆ ก้เหมือนการไปแจ้งเกิด แจ้งจดทะเบียนสมรส อะไรทำนองนี้ครับ นั่นคือเรานำข้อมูลของเราไปส่งให้ แหล่งที่รับ Submit ข้อมูล เช่น Social Bookmark หรือเว็บ Pligg หรือ Web directory เป็นต้น
การ Submit มีหลายประเภท เช่น Submit Blog , Submit บทความ , Submit Feed , Submit Sitemap เป็นต้น
21. Ping : เป็นการส่งสัญญาณการ Update ไปยัง Search Engine ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรทำเลย หรือถ้าจะทำก็ควรทำเมื่อบล็อกมีการ Update เพราะถ้าบ่อยไปจะถูกมองว่า Spam และถูก de-index ได้
22. Social Bookmark : คือเว็บไซต์ที่เปิดให้สมาชิกเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ที่ชอบ และแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ทราบ ส่วนใหญ่เราจะใช้ในการนำบทความ ไป Submit เพราว่า Social Bookmark จะมีผู้ใช้บริการมาก มีข้อมูลความเคลื่อนไหวแทบจะตลอดเวลา Bot ของ Search Engine จึงเข้าไปเก็บข้อมูลแทบจะตลอดเวลาเช่นกัน เมื่อพบบทความที่เรานำไป Submit เอาไว้ Bot ก็จะวิ่งมาเก็บข้อมูลที่บล็อกเราอีกต่อหนึ่ง
ตัวอย่างของ Social Bookmark ที่รู้จักกันได้แก่ digg ,stumpble,delicious ,Mixx เป็นต้น
23. Pligg : เป็นพวกเดียวกับ Social Bookmark แต่สร้างจาก CMS (เว็บกึ่งสำเร็จรูป) ดังนั้นก็ใช้งานเหมือนกับ Social Bookmark และในปัจจุบันในไทยก็มีเว็บ Pligg เป็นจำนวนมาก ผมทำการรวบรวมมาแนะนำกันอีกที
24. Web Directory หรือ Blog Directory : ถ้าแปลกันตรง ๆ ก็คือสารบัญของเว็บไซต์/บล็อก ที่มีคนบางกลุ่มนิยมไปค้นหาเรื่องราวที่สนใจจากแหล่งสารบัญที่ว่านี้ ดังนั้นถ้าคุณทำเว็บ/บล็อก ก็ควรจะนำไป Submit ใน Web Directory หรือ Blog Directory เพื่อเพิ่มโอกาสให้ เว็บไซต์/บล็อก เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ตัวอย่างของ Web Directory หรือ Blog Directory ได้แก่ Dmoz , Blogcatalog เป็นต้น
25. Tag : คือคำสั้น ๆ ที่มีใจความ หรือเรียกว่าเป็น Keyword ก็ได้ ถ้าในการเขียนบทความ หรือ นำบทความไป Submit ก็ควรจะใส่ tag ให้กับบทความนั้นมาก ๆ และควรใส่ tag ที่คนนิยมใช้ในการค้นหาด้วย มันจะทำให้ Index ของคุณดีขึ้นได้
26. Social Media และ Social Network : สังคมของคนออนไลน์ 2 ชนิดนี้สามารถใช้โปรโมทบล็อกของเราได้ เช่น Facebook ,Twitter,Myspace หรือ Youtube เป็นต้น
27. Onpage : หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า Onpage SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์หรือบล็อกให้ SE เข้าถึงข้อมูลในหน้าต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด สามารถมองเห็นและเข้าใจได้ว่าบล็อกของคุณเกี่ยวกับเรื่องใด เด่นเรื่องใด และส่งผลต่อผลลัพธ์การค้นหาด้วย เช่น ชื่อโดเมน Title ของแต่ละหน้า ชื่อของบทความ ความหนาแน่นของ keyword ในเนื้อหาหรือบทความ Link เข้า-ออก ในแต่ละหน้า Meta tag หรือการไม่มี Link เสียในหน้านั้น ๆ เป็นต้น
ถ้าให้ผมสรุปง่าย ๆ ก็คือทุกสิ่งอย่างที่ SE จะมองเห็นในเว็บ/บล็อกของเรา ซึ่งเป็นปัจจัยทีเราควบคุมได้ และควรใส่ใจปรับแต่งอย่างละเอียดอ่อน
28. Offpage : หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า Offpage SEO เป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อ คะแนน PR และ อันดับในการ Index เช่น การสร้าง Backlink จำนวนคนเข้าเยี่ยมชม อายุของโดเมนเป็นต้น
ตกหล่นยังไงแนะนำเพิ่มเติมได้เลยครับเพราะผมนึกออกมาแล้วเขียนเลย บางอย่างอาจจะยังนึกไม่ออกก็จะนำมาเพิ่มเติมให้ในภายหลัง และหากท่านใดจะคัดลอกไปก็ขอว่า ให้เครดิตกับผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ Mr.Hackublog
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ
หากคุณมีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามได้จากกล่อง comment ด้านล่างนี้ได้เลยครับ